top of page

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ “โทโฮคุ”

ไฮไลท์ของการเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ใครๆ ต่างใฝ่ฝันอยากจะไปสักครั้งก็คงหนีไม่พ้นช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือที่รู้จักกันในชื่อใบไม้เปลี่ยนสี และหนึ่งในภูมิภาคที่โดดเด่นมากๆ ก็คือ ภูมิภาค “โทโฮคุ” ที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น

เราเริ่มต้นด้วยการออกเดินทางไปยัง “โรงงานผลิตสาเกประจำเมืองอิบารากิ” ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัย เอโดะ สาเกของที่นี่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน ๆ นั่นก็เพราะที่อิบารากินี้ขึ้นชื่อด้านการเป็นผู้ผลิตข้าวชั้นนำของญี่ปุ่น และเป็นเหตุผลว่าทำไมที่นี่จึงผลิตสาเกชั้นเลิศมานานหลายศตวรรษ หลังจากดื่มด่ำกับรสชาติของสาเกขึ้นชื่อแล้วก็ต้องไม่พลาด ที่จะดื่มด่ำทัศนียภาพอันงดงามของ “สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค” ที่รายล้อมไปด้วยทุ่งโคเคียสีแดงไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นจุดเช็คอินที่ใครๆก็ต้องมาแวะถ่ายภาพกันให้ได้เมื่อถึงฤดูกาลของใบไม้เปลี่ยนสี

สถานีต่อไปเราเดินทางไปกันต่อที่ “หมู่บ้านโบราณโอจิจูกุ” หมู่บ้านที่เป็นที่พักของเหล่านักเดินทางและซามูไรในอดีต แถมยังขึ้นชื่อเรื่องเนงิโซบะ หรือโซบะต้นหอม เมนูเด็ดที่ต้องใช้ต้นหอมยักษ์กินแทนตะเกียบ วิธีกินที่ถูกต้องก็คือต้องกัดต้นหอมยักษ์ไปพร้อมๆกับการกินเส้นโซบะ รับรองเลยว่าอร่อยถูกใจแน่นอนค่ะ เมื่อกินกันจนอิ่มท้องแล้วก็ไปต่อกันที่ “Tonohetsuri หรือ หน้าผาหินล้านนาปี” หน้าผาที่ถูกแต่งแต้มด้วยใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผาหินแห่งนี้ถูกจากการกัดเซาะของน้ำและลมมาเป็นเวลานานหลายล้านปี จนกลายเป็นหน้าผาหน้าตาแปลกประหลาดและเป็นไฮไลท์ที่ใครๆ ต่างต้องมาเช็คอินเก็บภาพไว้เป็น ที่ระลึก ยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ก็ขอเดินทางไปต่อกันที่ “ปราสาทสึรุกะโจ” เพื่อแวะถ่ายรูปปราสาทแห่งตระกูลมัตสึไดระ เก็บไว้กันสักหน่อย ที่นี่เป็นฐานที่ตั้งของผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้มายาวนานกว่า 200 ปี และยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของรัฐบาล โชกุลก่อนเกิดการปฏิวัติอีกด้วย

ที่เช็คอินสวยๆ ในภูมิภาคโทโฮคุยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถ้าไม่รู้จะไปที่ไหนก็อยากจะแนะนำให้ไปที่ “บึงน้ำ 5 สี แห่งทะเลสาบโกชิคินุมะ” พบกับทัศนียภาพที่สวยงามมากโดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หมู่มวลใบไม้สีส้ม สีแดง ตัดกับกับบึงน้ำ สีเขียวมรกต ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเยือนเลยก็ว่าได้ เดินทางไปชมใบไม้เปลี่ยนสีให้เต็มอิ่มกันต่อที่ “วัดชูซนจิ” เมื่อเดินเข้าไปข้างในจะพบกับปราสาททองคำคนจิคิโดะ ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางใบไม้ที่ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนสีสันเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง แต่งแต้มให้ตัวปราสาทมีสีสันเพิ่มขึ้นไปอีก สุดท้ายของวันนี้เดินทางไปกันต่อที่ฟาร์มขึ้นชื่อที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง “ฟาร์มโคอิไว” นั่งรถสัมผัสความงามโดยรอบของฟาร์ม ที่มีพื้นหลังเป็นทิวทัศน์ของภูเขาไฟอิวาเตะ และนอกจากนี้ยังสามารถร่วมทำกิจกรรมทำชีส ที่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของที่นี่ บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดและต้องมาเยือนให้ได้ คือ “เทือกเขาฮักโกดะ” เดินทางยังไม่ทันถึงโรปเวย์ก็เริ่มได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีตามสองข้างทาง ก่อนจะขึ้นกะเช้ากอนโดล่าไปเต็มอิ่มกับทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่รายล้อมตลอดเส้นทางระหว่างขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเทือกเขาฮักโกดะ บนความสูง 1,585 เมตร และไม่ใกล้ไม่ไกลมากนักก่อนเดินทางไปเพลิดเพลินกับการเก็บแอปเปิ้ล และลิ้มรสความอร่อยของผลไม้ที่ “สวนแอปเปิ้ลฮิซากิ” ก็แวะถ่ายภาพที่สะพานโจกาคุระกันสักหน่อย แน่นอนว่าสะพานนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เหล่านักเช็คอินจะต้องแวะถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะได้พบกับทัศนียภาพที่งดงามของสะพานยาว 360 เมตร ที่ตระหง่านอยู่กลางแมกไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีสันสีเขียว ส้ม เหลือง สลับกับพื้นหลังที่ย้อมด้วยท้องฟ้าสีคราม

ก่อนนั่งชินคันเซนกลับเข้าเมืองเลยขอแวะไปดูแหล่งประวัติศาสตร์ของอาโอโมริที่ “แหล่งประวัติศาสตร์พิเศษซันไน – มารุยามะ” กันก่อน เล่ากันว่าที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้คนมามายมาอย่างช้านานนับตั้งแต่สมัยโจมง หรือญี่ปุ่นโบราณราว 14,000 ปีก่อนเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังค้นพบพบกับเครื่องปั้นดินเผา และอุปกรณ์ล่าสัตว์ แสดงถึงชีวิตและจิตวิญญาณของชาวโจมงได้อย่างชัดเจน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก นับได้ว่าเป็นสถานที่มี่มีคุณค่าสุดๆสำหรับญี่ปุ่นเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็เดินทางมาขึ้น “รถไฟชินคันเซนที่สถานี Shin – Aomori” รอบ 13.52 เพื่อเดินทางกลับเข้าไปพักผ่อนในเมืองชิลๆ อีกหนึ่งวันก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

หลังจากจบทริปในภูมิภาคโทโฮคุแล้วบอกได้เลยว่า เต็มอิ่มกับธรรมชาติและทัศนียภาพสวยงาม เหมาะที่จะเลือกเป็นสถานที่พักสายตาและพักความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หลบมาชาร์จแบตให้ร่างกายได้อย่างเต็มที่ รับรองเลยว่า “โทโฮคุ” ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

bottom of page